วันอังคารที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2551

เมื่อเทคโนฯไปฟังเพลงและวาดภาพบนเฟรมท่ามกลางธรรมชาติ(ตอนที่ 1)




รู้สึกแปลกใจและสงสัยเล็กๆ เมื่ออาจารย์รุจโรจน์เสนอเรื่อง การวาดภาพแล้วฟังเพลงไปด้วยท่ามกลางธรรมชาติ ณ สถานที่แห่งหนึ่งที่อาจารย์บอกว่าเคยไปมาแล้ว กับพวกเราในห้องในวันที่เจอกันชั่วโมงแรก ตัวเองรู้สึกสนใจมากแต่ยังนึกไม่ออกว่า เราเรียนเทคโนแต่ทำไมไปวาดภาพ(วะ) มันเกี่ยวกันมั๊ยเนี่ย จากนั้น เมื่อเวลาผ่านไป เราทวงถามอาจารย์ว่ากิจกรรมนี้จะยังไงกันดี หลังจากนั้นสิ่งต่างได้เกิดขึ้น การแบ่งงาน การติดต่อประสานงาน การเตรียมการ ตลอดเวลา 5 วัน แล้วชั่วโมงก่อนที่พวกเราจะเดินทาง เราทั้งห้องเทคโน 10 ไม่เป็นอันจะเรียนวิจัยของอาจารย์อรุณี (ไม่รู้ท่านจะคิดยังไงนะเนี่ย) คงเป็นเพราะตื่นเต้น
ตอนบ่าย 3 อาจารย์รุจโรจน์โทรมา บอกรอพวกเราอยู่ที่วัดโบสถ์พร้อมกับพี่อิ๋ว(รถนำขบวน มูลนิธิกู้ภัยบูรพา) แล้ว ตานี้เราอยู่นิ่งไม่ได้แล้ว หลังจากนั้นอีกครึ่งชั่วโมง พวกเราก็ได้ยินเสียงสวรรค์ จากอาจารย์
อรุณีที่น่ารักของเรา แล้วผึ้งก็แตกรัง เรานัดรวมตัวตั้งขบวนกันที่สี่แยกอินโดจีน ตอน 4 โมงเย็น แต่4 โมงแล้วรถของพี่มาลี ที่มีพี่มาลี น้องออย น้องเหมียวและฉัน ยังไปไม่ถึงจุดหมาย ทุกคนเริ่มโทรมาถามว่าไม่เจอใครที่จุดนัดพบ เลยขับเลยไปเรื่อยๆ เอาละสิฉัน ทำไงดีวะเนี่ยงานนี้ เพราะน้องออยดูแลเรื่องอาหาร เครื่องดื่ม พวกเราจึงต้องช้า เพราะซื้อน้ำแข็ง น้ำและสิ่งของอื่นที่น้องโก๋และน้องอ้นต้องการ
























เมื่อถึงจุดนัดพบ ฉันก็ไม่พบใครเหมือนคนอื่นๆ หลังจากนั้นโทรศัพท์ของฉันก็ทำหน้าที่ของมันอย่างไม่หยุด (5555) และในที่สุดจากการประสานงานที่ดีของพวกเราๆ ก็ตั้งขบวนได้สำเร็จ ณ ทางแยกเข้าเขื่อน พูดแล้วจะหาว่าคุย งานนี้พวกเรารู้สึกเหมือนเป็นคนสำคัญที่มีรถนำขบวน รถทุกคันเปิดไฟหน้าและรถฉันก็เป็นคันแรกด้วย พี่มาลีชอบใจใหญ่ที่อยู่คันหน้าสุด ฉันเปิดกระจกรถ ในมือ ถือกล้องและกดๆๆๆๆๆๆๆๆ ไปทางด้านหลังรถ ที่มีรถตามมาเป็นขบวน พี่มาลีและพวกเราในรถร้องเพลงอย่างมีความสุข ก็เกิดมาไม่เคยสักที



ไม่เกินครึ่งชั่วโมง พวกเราก็ถึงทางแยกเข้าอุทยานแห่งชาติแก่งเจ็ดแคว ทุกคนเริ่มตื่นเต้นกับเส้นทางที่ค่อนข้างลำบาก ยกเว้นฉันกับ เจ้าอ้น ที่ไปสำรวจเส้นทางมาแล้ว เจ้าออยนึกสนุกจึงโทรไปหาเจ้าจอยที่เอารถเก๋งป้ายแดงมา หลังจากที่เห็นฝุ่นฟุ้งตลบ และแล้วรถกระบะก็มาถึงกันหมดในขณะที่รถเก๋งค่อยๆตามมาถึงทีหลัง มันเย็นมากแล้วทุกคนจัดการกางเต๊นท์และจัดการข้าวของส่วนตัว ฉันได้แต่เพียงนำมันกองไว้ใกล้ๆกับที่ที่น้องเอก น้องรัตน์ น้องเปีย น้องโจ๊กหมายตาจะกางเต๊นท์เท่านั้น


และแล้ว.... ฉันก็เริ่มทำหน้าที่ประสานฝ่ายต่างๆที่เราแบ่งหน้าที่กัน น้องนึก น้องไก่ ฝ่ายเครื่องเสียง ไฟและไมโครโฟน แต่สายไฟ 20 เมตรที่เราเตรียมมามันยาวไม่พอ หัวหน้าอุทยานท่านก็จัดการประสานเจ้าหน้าที่มาต่อสายตรงให้ และก็มีเสียงเฮ ในยามค่ำเมื่อสปอร์ตไลท์ของพวกเราทำงาน



คนที่ว่างก็เข้าช่วยลำเลียงเสบียงและข้าวของส่วนกลางจากรถน้องโจ๊กและรถพี่มาลีมาประจำที่โต๊ะอาหารอันแสนวิเศษของพวกเรา (ลูกเสือชำนาญการรุ่นใหญ่ 55555) น้องนุ่น น้องโอห์ม น้องนึกและอีกหลายคน ช่วยกันบริการอาหารและเครื่องดื่มให้อาจารย์จิรวัฒน์ อ.หนึ่งและสองผู้ติดตามตัวน้อยๆ




มื้อนี้เป็นมื้อที่แสนวิเศษสุดในความรู้สึกของฉัน มันหาได้ที่ไหนบรรยากาศแบบนี้ ฉับแอบซัดไข่ต้มไปตั้ง 2 ฟอง อิ่มท้องแล้วยังอิ่มใจอีก


หลังอิ่มท้อง น้องโก๋และน้องอ้นก็ได้รับสัญญาณจากพี่อ้ายให้
ทำหน้าที่ ดำเนินกิจกรรม
เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไปนั้น โปรดติดตามตอนต่อไป เพราะตอนนี้ เกือบตี 1 ง่วงซะแล้ว












2 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

เก่งมากๆๆๆท่านหัวหน้าห้องครับ

อัญชิสา กล่าวว่า...

สวัสดีค่ะ ดิฉันเป็นนักศึกษามหาวิยาลัยธรรมศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ นะคะ เข้ามาอ่านบันทึกครูอ้าย เขียนได้สนุกดีนะคะ ถ้ามีประสบการณ์ใหม่ๆ ความรู้ใหม่ๆ ก็นำมาเขียนอีกนะคะ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ได้เข้ามาอ่านค่ะ